เด๋อดอกสะเดา คืออะไร

เด๋อดอกสะเดา หรือที่มักเรียกว่า "สะเดา" ชื่อวิทยาศาสตร์: Tamarindus indica เป็นพืชในวงศ์ Caesalpiniaceae (Fabaceae subfamily Caesalpinioideae) ซึ่งเป็นพืชอ่างครัวที่มีการใช้ประโยชน์หลากหลายทั้งในด้านอาหารและการแพทย์

คุณสมบัติของเด๋อดอกสะเดา:

  • ต้นสูงได้ถึง 20 เมตรแต่มักจะสูงไม่เกิน 10 เมตร
  • ใบเด๋อดอกสะเดาเป็นใบสำปล้องขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายตีนนก มีแท่งใบได้ 6-16 แท่ง
  • ดอกสีขาวหรือสีครีม มีขนาดใหญ่
  • เนื้อผลมีสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลเข้ม มีลักษณะแบนไปทางยาว มีรสหวานเปรี้ยวอมเปรี้ยว
  • ฝักสีน้ำตาล มีเมล็ดสีดำและเป็นสาปแคเชอร์

การใช้ประโยชน์ของเด๋อดอกสะเดา:

  1. ใช้ในอาหาร: ใบเด็อดอกสะเดาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารในหลายส่วนของโลก ในประเทศไทย เรียกว่า "ใบสะเดา" ซึ่งนิยมนำมาทำปลาร้า ซุปเหลือง และน้ำพริกเผา
  2. ใช้ในการแพทย์: เปลือกต้นเด็อดอกสะเดานำมาใช้ในการรักษาโรคภูมิแพ้ ท้องเสีย ปวดท้อง และการอักเสบหรือฟกช้ำผิวหนัง เนื้อผลเด๋อดอกสะเดายังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีฤทธิ์ในการลดการเสื่อมสภาพของเซลล์และลดอันตรายจากอนุมูลอิสระ
  3. ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรม: เมล็ดสะเดาใช้ในการผลิตเปลือกของเสื้อผ้า สายไหม และกระเบื้องยาง

อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการใช้เด็อดอกสะเดาในปริมาณมาก เนื่องจากสาร flavonoid ที่อยู่ในเด็อดอกสะเดาอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปาก แผลขนาดเล็ก หรืออาการแพ้ที่ผิวหนังได้ อีกทั้งยังไม่แนะนำให้ใช้เด็โอดอกสะเดาในช่วงครรภ์และการให้นมหรือหากมีอาการแพ้ต่อผลไม้สามารถหยุดใช้ได้เลย