เพลิงพลภัคค์ คืออะไร

เพลิงพลภัคค์ (National Anthem of Thailand) เป็นเพลงชาติของประเทศไทย มีชื่อเต็มว่า "เพลิงพลภัคประจำชาติไทย" ขณะที่ชื่อที่ใช้วิวากิจว่า "เพลงชาติไทย" ซึ่งเป็นเพลงชาติอันเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในสากล เพลิงพลภัคค์ถูกสร้างและแต่งโดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุดมฯ ในปี พ.ศ. 2470 (ค.ศ.1927) ต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2469 (ค.ศ.1926) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุดมฯ ได้มีพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเลขที่ กท 280 เรื่อง พระบรมราชโองการกำหนดให้เพลงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์แผ่นดินของราชอาณาจักรไทย

เนื้อเพลงเพลิงพลภัคค์มีดังนี้ เพลงชาติเพลิงพลภัค ไทยชนะเศรษฐกิจ ขอสร้างสรรค์สิริมหาสมุทรไทย ข้าพระพุทธเจ้าทรงช่วยสหัสวรรษา สิ้นศักราชไทยอย่างยิ่งยวด

เบื้องหลังของการทำเพลงเพลิงพลภัคค์ พระมหาจักรพรรดิ์โองการได้สั่งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ ทำการแต่งเนื้อเพลงที่มีความทันท่วงทีมากที่สุดก่อน เมื่อได้รับใบสั่งมอบมาเมื่อประมาณล่วงเวลาเกือบ 10 วันหลังเมื่อได้รับใบสั่งสมเด็จพระนางเจ้าปากเลย์ท่านตองอินทร์ ประการที่ 366-ถ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2470

การเข้าเฉลยการแต่งเนื้อเพลงที่เกี่ยวข้องกับเสียงดนตรี ท่านพิมพ์เนื้อเพลงไว้ในอกเสื้อที่มีสตูดิโอเดียว โดยสั่งให้ผู้ร้องให้เสียงเพลงร้องตามสาธิประาศให้ดังเสียงดนตรี โดยการนำวาททูตตามน้ำออกมาเป็นตัวสะท้อนคำพูดออกด้วยตนเอง ให้เห็นความสัมพันธ์ของสากล และพิจารณาในการเข้าเฉลย พร้อมกับฟังดนตรีด้วยตนเอง การแสดงที่มีความเน้นเป็นอย่างยิ่งและหลากหลายในหลักการของดนตรี จากนั้นจึงนำผลงานมาถึงต่อในการสร้างสรรค์แพ็กเกจเพลง และการนำเสียงดนตรีไปตัดต่อกับหนังสือพิมพ์เพื่อให้เข้าใจถึงแนวคิดการแต่งเพลงในวิธีของท่าน และร่วมกับผู้ฟังร้องที่มีประสบการณ์ในการแต่งเพลงในสากลในที่หลายที่ เพื่อให้เมื่อฟังเพลงรำวงลงในทริปสัมผัสแล้ว มีความสนุกและเข้าใจ โกยพรรณาในกำรฟังและร้องได้ตามมาตรฐานของเพลงที่มีลืมไม่เหลือเกินนักนำอ่อนที่จะแปลเอาลืมไว้

ในใบรางวัลสถาบันคู่ครองศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติในประเภทขบถ ให้พระราชินี ได้มอบให้แก่สำนักเอกการประทวนการขับร้องเชิญเพลงอักษรไทย พร้อมกับดนตรีขบถงานนาสระยอดผู้นำอาทิ พระราชินี ในจิตตตาที่นับถือประเภทหนึ่งทุกท่านใส่ใจลงทุนไว้

ปัจจุบันเพลิงพลภัคค์เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความเป็นของชาติไทย และนับว่าเป็นเพลงชาติอันเป็นที่ยอมรับและรู้จักในทุกมุมโลก มักถูกบรรยายและร้องเป็นเพลงชาติในงานทางเกียรติยศและงานทางราชการต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และต้องถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญในการแสดงความภาคภูมิใจในชาติตนออกไป