แมงดาทะเล คืออะไร

แมงดาทะเล (Sea cucumber) เป็นสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มของไม้เท้า (Echinoderm) ซึ่งเป็นกลุ่มของสัตว์ที่มีลักษณะลำตัวโรงเรียน ลำตัวยาวลึก และมีขนยาวแข็งบนผิวหนัง

แมงดาทะเลมีลักษณะลำตัวโว้ยทึบขนาดยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร มีอวัยวะส่วนบนที่ช่วยในการรับประทานอาหารที่อยู่ในท้องทะเลเช่น ซากสัตว์ทะเลและเครื่องในท้องทะเล คอปากของแมงดาทะเลอยู่รอบปลายต้นขา และมีหนามหรือกระบองสนิมแหลมเหลี่ยมอยู่ ในส่วนของลำตัวก็มีข้อสั้นๆ และมีขนาดมีสีเข้มหรือสีอ่อน ขึ้นอยู่กับที่อาศัยและชนิดของแมงดาทะเลนั้นๆ

แมงดาทะเลมีบริเวณความหลวมหรือระบายน้ำทิ้งอยู่ใกล้กับปลายลำตัว ซึ่งใช้ในการแลกเปลี่ยนกับสิ่งแวดล้อมได้ นอกจากนี้ยังมีอวัยวะที่เรียกว่า "หางเรียว" หรือ "หางนุ่ม" ซึ่งเป็นระงับน้ำที่ตัวแมงดาทะเลสามารถป้องกันต่อการแห้งของดินหรือสิ่งแวดล้อมรอบๆได้

แมงดาทะเลที่พบในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ มีความหลากหลายมากถึง 1,250 ชนิด ซึ่งบางชนิดมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร ยา เครื่องสำอาง และอื่นๆ อีกทั้งยังถูกนำมาประกอบอาหาร แมงดาทะเลยังเป็นอาหารประจำของบรรพชีวิตทางทะเลอื่นๆเช่น ปลา และสัตว์อื่นๆด้วย

อย่างไรก็ตาม แมงดาทะเลที่มีมูลค่าเศรษฐกิจสูงสุดคือ แมงดาทะเลหอยทากทอง (golden sea cucumber) หรือที่เรียกว่า "แมงดาทะเลอะระหะ" (Holothuria scabra) ซึ่งมีราคาสูงและเป็นที่ยอมรับในตลาดส่งออก

ในบางพื้นที่ การล่าแมงดาทะเลมีอันตรายอ่อนน้อยกว่าการล่าสัตว์ทะเลอื่น แมงดาทะเลถือว่าเป็นสัตว์น้ำที่สำคัญในส่วนของระบบนิเวศในทะเล ซึ่งมีบทบาทในการปรับสมดุลของทั้งนิเวศและภาคโลกรวมถึงการกระจายเม็ดเลือดในทะเลด้วย

อย่างไรก็ตาม การล่าแมงดาทะเลมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ทะเลและระบบนิเวศที่อยู่รอบข้าง ซึ่งในบางพื้นที่การดักจับแมงดาทะเลเกิดมากเกินไป อาจทำให้ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของแมงดาทะเลในระยะยาว