กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสง คืออะไร

กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสง (Reflex camera) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า DSLR (Digital Single Lens Reflex) คือกล้องถ่ายภาพที่ใช้ระบบสะท้อนแสงเพื่อดูภาพในวัสดุสัมผัสก่อนที่ภาพจะถ่ายลงบัฟเฟอร์ และใช้ระบบการทำงานที่ซับซ้อนควบคู่กับเซ็นเซอร์ภาพแบบดิจิตอล

โดยปกติแล้วกล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงประกอบด้วยส่วนส่องทางกลับ (pentaprism) และส่วนบัฟเฟอร์ รวมไปถึงเซ็นเซอร์ภาพ (sensor) ซึ่งสามารถบันทึกภาพเป็นไฟล์ดิจิตอล อาทิเช่น JPEG หรือ RAW ได้

กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงมีข้อดีหลายประการ เช่น:

  1. ความชัดเจนของภาพ: ส่วนส่องทางกลับ (pentaprism) ช่วยให้มองเห็นภาพที่แท้จริงกว่ากล้องดิจิตอลอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้ระบบสะท้อนแสง
  2. ระบบโฟกัสอัตโนมัติ (Autofocus): กล้อง DSLR มีระบบโฟกัสที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ง่ายต่อการถ่ายภาพที่เรียบขึ้น
  3. ความอิสระในการเปลี่ยนเลนส์: กล้อง DSLR มีตัวควบคุมเลนส์ที่ทันสมัย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้เลนส์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและแนวความคิดในการถ่ายภาพได้
  4. ความคมชัดและความแม่นยำในการเอียงภาพ (Tilt-shift): ตัวเลือกนี้ช่วยให้ผู้ถ่ายภาพสามารถปรับเอียงของเลนส์เพื่อควบคุมความคมชัดและความลึกของภาพได้
  5. ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง (Burst mode): กล้อง DSLR มีความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องโดยไม่มีความล่าช้า ช่วยให้ผู้ถ่ายภาพสามารถรับภาพที่เกิดขึ้นในระหว่างการเคลื่อนที่ได้

อย่างไรก็ตาม กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงก็มีข้อเสียบางประการ เช่น:

  1. ขนาดและน้ำหนัก: เนื่องจากมีส่วนส่องทางกลับและบัฟเฟอร์ในกล้อง ทำให้กล้อง DSLR มีขนาดใหญ่และน้ำหนักหนักกว่ากล้องดิจิตอลอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน
  2. ราคา: กล้อง DSLR มีราคาสูงกว่ากล้องดิจิตอลอื่น ๆ หลายร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีความซับซ้อนและระบบการทำงานที่มากกว่า
  3. ระบบการทำงาน: การใช้กล้อง DSLR อาจมีความซับซ้อนในการตั้งค่าและการใช้งานมากกว่ากล้องดิจิตอลอื่น ๆ ที่มีระบบง่ายกว่าในบางกรณี
  4. การเก็บรักษาภาพ: ในรูปแบบ RAW ซึ่งเป็นรูปแบบที่ถ่ายจากเซ็นเซอร์ภาพในกล้องโดยตรง จำเป็นต้องใช้โปรแกรมแปลงไฟล์หรือซอฟต์แวร์ตรวจสอบเพื่อดูภาพได้

นอกจากนี้ ยังมีกล้องโทรทรรศน์แบบไมโครฟอร์ (mirrorless camera) ที่เป็นกล้องโทรทรรศน์แบบดิจิตอลที่ไม่มีระบบสะท้อนแสง ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างไปจากกล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสง