เขมนิจจามิกรณ์ คืออะไร

เขมนิจจามิกรณ์เป็นราชกรณียกิจสงค์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ของอาณาจักรไทย โดยมีพระมหากษัตริย์เจ้าเขมรเป็นผู้ก่อตั้ง และเขมนิจจามิกรณ์เป็นพระราชกรณียกิจสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการรื้อถอนและสร้างศาสนสถาน เพื่อสร้างและปฏิบัติพระราชกษาฐานในพระบรมมหาราชวัง โดยสัมฤทธิ์ของเขมนิจจามิกรณ์คือการเปลี่ยนสภาพของพระราชวังและอาคารสำคัญภายในพระบรมมหาราชวังตามแบบเฟรนช์และสมัยสุโขทัยให้เป็นแบบสมัยยุครีเนสซองส์

การสร้างสรรค์เขมนิจจามิกรณ์ได้มีการประกอบหลักและรายละเอียดโดยดำเนินไปตามขั้นตอนเป็นระเบียบ ตั้งแต่การเตรียมคนและเสื่อมาจนถึงขั้นการสร้างสรรค์ ดังนี้

  1. การจัดเตรียมคนและเสื้อ
  • มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการเขมนิจจามิกรณ์ ซึ่งเป็นตำแหน่งข้าราชการกำกับและดูแลการสร้างสรรค์
  • มีการจัดทีมงานที่ประกอบด้วยช่างก่ออิฐ ช่างไม้ ช่างโลหะ ช่างสี ฯลฯ เพื่อดำเนินการตามสายงานและความเชี่ยวชาญของแต่ละกลุ่ม
  • ในส่วนของเสื้อมีการใช้นักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการลงโทษที่ปราศจากการสอบสวนจากโรงเรียน
  1. การวิเคราะห์และยกนิ้วสร้างสรรค์
  • มีการสำรวจแบบรายละเอียดของอาคารที่ต้องรื้อถอน และวางแผนในการสร้างสรรค์ตามเอกสารและบ้านเมืองยุโรป
  • มีการดำเนินการจากด้านความน่าจะเป็นของการพ่ายแพ้ที่กรุงเทพฯ เพื่อการวางแผนระดับกรอบ ปรับปรุงอาคารในทำเลที่ต่อมาจะเป็นแหล่งเก็บอาวุธ และจำหน่ายอาวุธ
  1. การและกระบวนการสร้างสรรค์
  • มีการใช้แรงงานท้องถิ่นเป็นแรงงานสำคัญ เพื่อเป็นการสอดคล้องกับเหตุการณ์และคณะกรรมการเพื่อเคลื่อนไหวอาเซียน
  • สถาปนิกฝรั่งเศสถูกชักชวนให้เป็นผู้ดูแลความรุนแรงในการสร้างสรรค์
  • ในส่วนของอาคารหลักและอาคารสำคัญ ได้แก่ พระที่นั่งศิลาดาษ พระตำหนักจีนตอนใน และพระที่นั่งบาสาลาสาลิกา เป็นอาคารที่ถูกรื้อถอนและสร้างสรรค์ใหม่
  1. การดูแลและสร้างสรรค์ใหม่
  • ในส่วนของการดูแลจะมีการรักษาอาคารและสถาปนิกภายในพระราชวังตามแบบเดิมอย่างเคร่งครัด
  • ส่วนการสร้างสรรค์ใหม่จะมีการประชาสัมพันธ์และอุดมการณ์ชาวบ้านที่อาจช่วยกันได้ในการคุ้มครองลานเอียง พระที่นั่งพำนัก และการก่อตั้งแรงงาน โดยจะรับความกับข้อผิดพลาดซึ่งกระทำให้เสียหายแขวงจันทรเกษมที่ไม่ใช่ของท่านเขมจะขโมยเสื้อผ้าในแบบสมัยยุครีเนสซองส์

เขมนิจจามิกรณ์เป็นภาพพจน์ที่ยืนของการพัฒนาและปฏิวัติสถาปัตยกรรมพระราชวังในสมัยรัชกาลที่ 5 ของอาณาจักรไทย นับได้ว่าเขมนิจจามิกรณ์เป็นอีกหนึ่งสีสันของประวัติการณ์ที่ดีให้แก่คนไทย