ดาวโอเกะ คืออะไร

ดาวโอเกะ (โอกเส้น) เป็นดาวเคราะห์ที่หันหน้าไปยังโลกเสมอ และอยู่ในระยะทางโคจรที่ค่อนข้างใกล้กับโลก เนื่องจากเส้นผ่าศูนย์กลางของรัศมีเดียวกับเส้นผ่าศูนย์กลางตรงของโลก ดาวโอเกะมีความเคลื่อนที่ตามทิศทางของดาวศุกร์ ดังนั้นเมื่อดูดาวศุกร์จากโลก เราสามารถเห็นดาวโอเกะอยู่ใกล้ดาวศุกร์เสมอ

ดาวโอเกะถูกค้นพบโดยวิทยากรฟิสิกส์ชาวอังกฤษชื่อ "ควีเนเวอร์" (James Gregory) ในปี พ.ศ. 2311 (ค.ศ. 1676) โดยเขาเป็นผู้คิดค้นแกนพจน์ของดาวโอเกะขึ้นมาครั้งแรก แต่พัฒนาแบบจำลองดาวโอเกะในลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน เป็นที่ทราบว่าเป็นเรื่องที่ช้าค่อนข้างของคริสเตียน บุคคลที่ได้รับการยอมรับว่าคิดค้นดาวโอเกะคือฟิสิกส์จากสกอตต์ชาวฟรางก์เทิร์ก (Francesco Grimaldi) ในคริสต์ศตวรรษที่ 17

ดาวโอเกะมีขนาดเล็กกว่าโลกมาก ดาวโอเกะมีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวเพียง 27 เส้นผ่านศูนย์กลางของโลก ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 384,400 กิโลเมตร ลักษณะดาวโอเกะคล้ายวงกลมเรียบ เนื่องจากดาวโอเกะเป็นวัตถุที่มีน้ำหนักเล็กและโครงสร้างแข็ง เนื้อหนาที่สุดมีความยาวเพียงเกือบ 10 กิโลเมตร และ้ำหนักมากที่สุดที่ระบุได้มีค่าเพียง 15 กิโลกรัม สีของดาวโอเกะเป็นสีเทาและนำแสงออกมาเล็กน้อย นอกจากนี้ ดาวโอเกะยังมีพื้นผิวกลมคล้ายแผ่นและมีช่องว่างที่เรียกว่า "ไม่มีดิน" ซึ่งเกิดจากการถลุงโครงสร้างภายในของดาวโอเกะในระยะเดียวกัน

ดาวโอเกะมีผลกระทบกับโลกในหลายด้าน ซึ่งฤทธิ์ของแรงดึงดูดที่เกิดจากดาวโอเกะทำให้โลกและดาวโอเกะเคลื่อนที่รอบกัน ในรอบระยะเวลา 29.5 วัน แรงโน่นทำให้มีกระแสมรณะทะลวงที่ตรงข้ามโซลาร์เทอร์เรสที่เกิดขึ้นในระหว่างดาวโอเกะกับโลก และเหตุผลที่เรามักเห็นดาวโอเกะที่เกิดเต็มดวงชะตาโดยทั่วไปขึ้นกับระยะห่างระหว่างโลกกับดาวโอเกะ เป็นไปตามกฎอะไรก็ตามย่อมมีตามไปด้วย ยิ่งระยะห่างยิ่งเล็กตามกฎนี้ยิ่งมาก พูดง่ายคือเมื่อดูดาวศุกร์ในขณะที่โคจรอยู่ที่จุดทีชิดสุดกับโลก ดาวโอเกะจะดูเต็มดวงชะตาและสว่างแสงส่วนใหญ่ ในขณะที่อยู่ในผิวตามขอบโลก จะดูเป็นรูปวงขนาดเล็กกว่า