โรคเรื้อน คืออะไร

โรคเรื้อน (Gonorrhea) เป็นโรคทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Neisseria gonorrhoeae หรือเชื้อนีสเซอเรีย เชื้อนี้สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยตรงพร้อมประจำอวัยวะเพศหรือปากอวัยวะเพศ โดยจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปัสสาวะหรือจุกเสียดที่อวัยวะสืบพันธุ์ โรคนี้ยังมีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายในสาวกเพศชายที่มีปากอกบวมขึ้น และสาวกผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบ

อาการของโรคเรื้อนสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ

  1. โรคเรื้อนทางเพศสัมพันธ์: จะมีอาการเจ็บปัสสาวะ คัน ระคายเคือง หรือปวดบริเวณอุโมงค์ปัสสาวะ อาการจะเริ่มแสดงออกภายใน 2-7 วันหลังการติดเชื้อ แต่บางครั้งอาจยาวมากถึง 30 วัน

  2. โรคเรื้อนทางอาการลูกสืบพันธุ์ (Neonatal gonorrhea): โรคเรื้อนสามารถถ่ายทอดผ่านทางช่องคลอดจากแม่ไปยังลูกน้อย (เชื้อสามารถเข้าไปที่ตา กระเพาะ ข้อต่อ หรือสมองของทารก) อาการที่พบบ่อย คือ ตาหนองน้ำที่มีอาการบวมแดง การติดเชื้อจะเกิดขึ้นระหว่างในช่วง 2-5 วันหลังคลอด

การป้องกันโรคเรื้อน สามารถทำได้โดยการใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และการตรวจสุขภาพนาฏติกายสำหรับที่มีพฤติกรรมเพศสัมพันธ์เสี่ยง การตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับผู้สูงอายุนอกรายใช้เส้นสายตามคำแนะนำของหมอ การรับวัคซีน HPV (Human Papilloma Virus) หรือไวรัสปานชนิดมนุษย์ โดยเฉพาะเพศยาการเพื่อป้องกันการติดเชื้อเนื่องจาก HPV ที่เกี่ยวข้องกับโรคเนื้องอก เนื่องจากโรคเนื้องอก อาจทำให้เป็นสาเหตุทอดทิ้งทารกหรือโรคมะเร็งสมองที่วัยเยาว์มากในภายหลัง

หากมีอาการสงสัยหรือเคยมีการมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจสุขภาพและการรักษาเพื่อป้องกันและรักษาโรคเรื้อนที่เหมาะสม