กฎของชาร์ล คืออะไร

กฎของชาร์ล (Charles's law) เป็นกฎทางกลศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในหมวดเกี่ยวกับอุณหภูมิและปริมาณความสัมพันธ์ของก๊าซ. กฎนี้ถูกเรียนรู้และพัฒนาโดยนักฟิสิกส์ชาวอังกฤษชื่อว่านีลส์ อลอต์ ชาร์ลส์ (Joseph Louis Gay-Lussac) ในปี 1802.

กลไกทำงานของกฎของชาร์ลนั้นว่า "ปริมาณของก๊าซที่ถูกตั้งไว้ภายในหมอกอุณหภูมิคงที่ กำหนดโดยตัวแปรอุณหภูมิโดยตรง". กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ "ปริมาณของก๊าซที่ถูกแปรปรวนที่อุณหภูมิคงที่มีความสัมพันธ์แบบเท่าสัมประสิทธิ์กับอุณหภูมิ".

กฎนี้สามารถเขียนสูตรได้ดังนี้: V/T = c

เมื่อ V แทนปริมาณของก๊าซ, T แทนอุณหภูมิของก๊าซ, และ c คือค่าคงที่.

ในทางปฏิบัติ, เมื่อเพิ่มอุณหภูมิของก๊าซ ปริมาณของก๊าซจะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับน้ำที่ระเหยออกมาจากถ้วยแก้วที่ถูกตั้งกับเครื่องร้อน. ในทางกลับกัน, เมื่อลดอุณหภูมิของก๊าซ ปริมาณของก๊าซจะลดลงเช่นเดียวกับน้ำที่กลับเข้าไปในถ้วยแก้วที่ถูกตั้งกับเครื่องเย็น.

กฎของชาร์ลส์เป็นหลักการสำคัญในการศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของก๊าซที่เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และถูกใช้ในหลายงานวิจัยและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับก๊าซควบคุมอุณหภูมิเช่น เครื่องทำความเย็น, เครื่องอบแห้ง, หรือสถานีเติมเชื้อเพลิงในยานพาหนะ.