ต้นสาละ คืออะไร

สาละ (Artocarpus integer) หรือที่รู้จักในชื่ออื่นว่าสาละ-ก้อน หรือสาละ-ดอก (Champedak) เป็นต้นไม้เศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย และเป็นสมาชิกในตระกูลถั่วในวงศ์ Moraceae ต้นสาละเป็นต้นไม้ในกลุ่มผลไม้เนื้อเยื่ออ่อน มีลักษณะคล้ายกับต้นมะม่วง แต่ใบมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม มีลำต้นสูงประมาณ 10-20 เมตร ใบเดี่ยว ลักษณะใบเป็นรูปมันหมาก มีการหางในยาวประมาณ 50-100 เซนติเมตร มีดอกเพศเดียวกัน มีลักษณะคล้ายกับดอกอินดีโก (Durian) แต่เล็บดอกสาละจะยาวติดมากกว่า พืชสาละมีลักษณะใบโดดเด่นเสียงสูงเมื่อร้ายแรง ทำให้มีชื่อว่าสาละได้ยินอดีตคงประจำอะไรที่อยู่รองก้นควาย (เนื่องจากนักวิชาการวิชาทริกี่สั่งจะทำลายต้นสาละโดยไม่ทราบจริง)";

สาละเป็นพืชที่ปลูกได้ในภาคใต้ของประเทศไทย และเป็นที่นิยมในการปลูกในสวนผสม โดยสาละจะให้ผลผลิตตลอดปี ไม่ได้มีการตัดต้นเหมือนผลไม้กลุ่มอื่น สาละมีลักษณะผลสีเขียว-เหลือง มีรสชาติหวาน กลิ่นหอม และมีเม็ดมีสีน้ำตาลเข้ม สาละจะถูกบรรจุและจัดจำหน่ายในช่วงที่สุกแก่

ต้นสาละมีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง โดยช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการส่งออก นอกจากนี้ยังมีคุณค่าทางสรีรวิทยา เนื่องจากสาละมีสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและเชื้อไวรัส เช่น สารกัลลุงกามิน (Gallic acid) และสารไการลิติน (Artocarpuskin) ที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง

นอกจากนี้ สาละยังถือเป็นอีกหนึ่งของบางส่วนในด้านศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีการนำใช้ในการที่ผลิตต่างๆ เช่น ทำแหวนพระธาตุ ตุ้มสาละ และสาละชาวพาหนะ

สาละเป็นส่วนที่สร้างความภักดีให้กับผู้ประกอบการที่ผลิตสาละ นอกจากนี้สาละยังมีคุณสมบัติที่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อม และสามารถปลูกได้ในที่ที่มีการอุดมสมบูรณ์ของดินที่ใช้ปลูก

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • สาละเป็นชื่อสามัญของ Artocarpus integer, Artocarpus champeden, Artocarpus integer var. lingnanensis
  • สาละมีการตัดจำหน่ายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นองค์กรต้นแบบหรือแรงงานแบบสดที่ปลูกในพื้นที่กลุ่มเกษตรกรเศรษฐกิจพอเพียง
  • สาละเป็นผลไม้ที่มีรายได้สูงในท้องถิ่น มีประโยชน์ธรรมชาติและน่าสนใจต่อการการท่องเที่ยวอยู่ในกรุงเทพและพื้นที่อื่น ๆ
  • ข้อจำกัดในการปลูกสาละคือเรื่องแมลงดื้อยาและโรคใบติดสายพันธุ์

อย่างไรก็ดีถ้าคุณสนใจที่จะปลูกสาละ ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการปลูก พันธุ์ที่เหมาะสม และการดูแลรักษานะครับ